หลวงปู่บุดดา ถาวโร
ปุจฉา - วิสัชชนา
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
ปุจฉา: ทำกรรมฐานอย่างไรจะถูกครับ
วิสัชชนา: ทำอย่างไรก็ได้ ทำแล้วกิเลสระงับดับลง ไม่กำเริบ นั่นแหละถูก ทำแล้วข่มกิเลสได้
ฆ่ากิเลสตาย คายกิเลสหลุด ถูกทั้งนั้นแหละ
ปุจฉา: หลวงปู่ครับปฏิบัติสิ้นทุกข์ โดยเร็วทำยังไงครับ
วิสัชชนา: ก็รู้ทุกข์แล้ว โยนน้ำเสียก็แล้วกัน ก็สิ้นทุกข์ไป
ปุจฉา: อยากทำตามหลวงปู่ไว ๆ จะทำอย่างไรครับ?
วิสัชชนา: อยากตามไวๆ ก็ตามปัจจุบันซี่! เออ ! โง่อย่างไรล่ะ ! ตามอดีตอนาคตก็โค้งไปโค้งมาซี่ !
ดูกายดูใจปัจจุบันบ่อย ๆ ซี่ ! ถึงเองแหละ
ปุจฉา: หลวงปู่บอกว่า ตามันหลับก่อน ตัวรู้มันหลับทีหลัง รู้อย่างไรครับ
วิสัชชนา: รู้อยู่ตรงรู้นั่นแหละ รู้อยู่ตรงไม่ติดนั่นแหละ
ปุจฉา: หลวงปู่อยู่วัดอะไรครับ
วิสัชชนา: อยู่วัดสองขา ... อยู่ตรงไหน ตรงนั้นก็เป็นวัด ...
ปุจฉา: ลูกขอเกาะชายจีวรหลวงปู่ไปนิพพานด้วยคนนะเจ้าค่ะ!
วิสัชชนา: ขี้เยี่ยวแทนกันได้หรือเปล่าล่ะ?
ปุจฉา: หลวงปู่ครับ ทำไมชาวบ้านใส่เกี๊ยเดินในวัดหนวกหูจังเลย
วิสัชชนา: เอ้า ! แก้หูตัวเองซี่ ! หูเราอยู่บนกุฏิไปหาบเกี๊ยเขาทำไมล่ะ !
ปุจฉา: หลวงปู่เป่าศีรษะให้เพื่อนผมหน่อยครับ
วิสัชชนา: นี่ ! มันยังไม่รู้ว่าธรรมอยู่ตรงไหนจะให้เป่าหัว เป่าใจมันยังไม่ฟังเลย แล้วจะเป่าหัวยังไงล่ะ?
ปุจฉา: เวลาถูกด่าทำอย่างไรดีครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา:เวลาถูกด่า ถอดจีวรดูซิ ! ไม่มีตัวมีตนที่ไหนนี่ คนไหนด่า ก็อยู่กับคนด่านั้นแหละ
คนไหนถูกด่า ก็ถูกที่หูนี่ ใจไม่ถูกด้วยนี่ !
ปุจฉา: หลวงปู่ครับ ผมใครยุ่งที่สุดครับ ?
วิสัชชนา:ไม่มีของใครยุ่งหรอก กิเลสมันยุ่งต่างหากล่ะ ! ผมมันไม่ได้ว่าอะไรนี่ !
ปุจฉา: วิธีแก้ผมยุ่งทำยังไงครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา: ใช้ใบมีดโกนซี่ ! แก้ยุ่งได้
ปุจฉา: หลวงปู่ให้หวยโยมหน่อยได้ไหมครับ
วิสัชชนา:ฮือ ! ให้ทำไม ! หวยมันมีอยู่ของรัฐบาลโน้นต่างหากล่ะ !ของเรามีเมื่อไร ?
เรามีแต่ศีลธรรม ก็ให้คีลธรรมดีกว่านี่ ให้วัตถุได้หรือ ?
ปุจฉา: เดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา: พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไม่เกิดไม่ตายนั่นแหละ
ปุจฉา: หลวงปู่หายตัวได้ไหมครับ ?
วิสัชนา: ทำไมจะหายไม่ได้ล่ะ !ก็หายไปจากอดีตไงล่ะ !อย่าไปอนาคต อยู่กับปัจจุบันก็ไม่มีตัว
มีแต่ธรรม ไม่ใช่ตัวกิเลส แต่เป็นตัวธรรมะ
ปุจฉา: หลวงปู่เหาะได้ไหมครับ ?
วิสัชชนา: ทำไมจะเหาะไม่ได้ก็เหาะไปทางตา หูจมูกลิ้นกายใจ เหาะไปมนุษยโลก สวรรค์เทวโลกพรหมโลก
โลกุตตรโลก ไปได้ทุกโลกแหละ !
ปุจฉา: อยากให้หลวงปู่ด่ากระผมสักทีซี่ครับ
วิสัชชนา: ถ้ามีด่ามันก็ด่าซี่ ! ไม่มีด่ามันจะด่าได้อย่างไร ?
ปุจฉา: หลวงปู่ครับพระสูบบุหรี่เป็นพระอรหันต์ได้ไหมครับ ?
วิสัชชนา: เป็นหรือไม่เป็น มันไม่ใช่คนถามคนบอกหรอก !มันจะเป็นของมันเองมันจะไม่เป็น ก็ไม่เป็นของมันเองต่างหากล่ะ !
อริยมรรค ๔ อริยผล ๔ มันบอกเอง คนบอกได้หรือ ? ของใครของมันต่างหากล่ะ !
ปุจฉา: หลวงปู่ค่ะ เมื่อไหร่ลูกจะมาอยู่วัดได้ค่ะ ?
วิสัชชนา: หมดโกรธแล้วอยู่วัดดีนะ !
ปุจฉา: หลวงพ่อสงฆ์ท่านตาบอดแล้วยังเทศน์ได้หรือครับ ?
วิสัชชนา:ท่านตาบอดแต่ตา แต่ธรรมะท่านไม่บอดนี่ !
ปุจฉา: ถ้ามีโยมมาชวนพระสึกจะทำอย่างไรครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา: มันยังมีกรรมพันธุ์นี่ ให้เบามีกรรมข้างเดียวซะ !เราไม่รับกรรมเขาก็แล้วกัน
ปุจฉา: หลวงปู่ครับ หมอฉีดย่าฆ่าเชื้อโรคตายบาปไหมครับ ?
วิสัชชนา: ฉีดยาแก้โรคซี่! ไม่ใช่ฉีดยาฆ่าสัตว์นี่
ปุจฉา: ธุดงค์เดินป่าทำอย่างไรครับ ?
วิสัชชนา: เดินป่าไปตามธรรมะไม่เป็นไรหรอก ! เมตตาธรรมไปไหนก็เหมือนกัน
ปุจฉา: หลวงปู่เคยถอนฟันทีละซีกหรือครับ ๆ ?
วิสัชชนา:บางทีวันเดียว ๓ ซีกก็มี ถอนพร้อมกันเลย มันไม่มีเพี่อนเอาไว้ทำไม ?ถอนทีละซีกก็ได้ แต่เสียเวลาคนเขาทำให้
ฟันมันนิพพานไปก่อนแล้ว ไปแล้วไม่มาหรอก ไม่เหมือนเด็กฟันน้ำนม ไปแล้วมา กลับไปกลับ มาได้
ปุจฉา: หลวงปู่ครับผมควรเอาอย่างใครครับ ?
วิสัชชนา: เอาอย่างธรรมซี่มันถึงจะแน่ ไปไหนก็ธรรม ล่วงไปแล้วก็ธรรมะ ชีวิตอยู่ด้วยธรรมะก็แล้วกัน ไปอยู่กับคนมันยุ่งเหมือนยุงตีกัน
ปุจฉา: (ตำรวจทางหลวง) รถหลวงปู่วิ่งเร็วเกินอัตรากำหนดนะครับ
วิสัชชนา: วิ่งเร็วยังไง ? วิ่งตั้ง ๒ วันแล้วยังไม่ถึงที่แจกของเลย