กับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร










        เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และ ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าได้เสด็จ              พระราชดำเนินไปกราบนมัสการหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถึงวัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม
จ.สกลนคร ในคราวเสด็จพระราชทานผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ครั้งแรก พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
นมัสการถามหลวงปู่ฝั้น ความสำคัญว่า

รัชกาลที่ 9 ปุจฉา : ทำอย่างไร ประเทศชาติ ประชาชน จะอยู่ดีกินดี มีความสามัคคีปรองดองกัน ?
หลวงปู่ฝั้น วิสัชนา : ให้เข้าหาพระศาสนา เพราะศาสนาสอนให้ละชั่ว กระทำความดี ทำใจให้ผ่องใส

รัชกาลที่ 9 ปุจฉา : คนส่วนมากทำดี คนส่วนน้อยทำชั่ว จะให้คนส่วนมากเดือดร้อนไหม ? ทำอย่างไรจึงจะแก้ไขได้ ?
หลวงปู่ฝั้น วิสัชนา : ขอถวายพระพร ทุกวันนี้ คนไม่รู้ศาสนา จึงเบียดเบียนกัน ถ้าคนเรานึกถึงศาสนาแล้ว 
ก็ไม่เบียดเบียนกัน เพราะต้องการความสุข ความเจริญ คนอื่นก็เช่นกัน
คนทุกวันนี้ เข้าใจว่า ศาสนาอยู่กับวัด อยู่ในตู้ ในหีบ ในใบลาน อยู่กับพระพุทธเจ้า ประเทศอินเดียโน่น จึงไม่สนใจ 
บ้านเมืองจึงเดือดร้อนวุ่นวาย มองหน้ากันไม่ได้ ถ้าคนเราถือกันเป็นบิดามารดา เป็นพี่น้องกันแล้ว ก็สบาย ไปมาหาสู่กันได้ เพราะใจเราไม่มีเวร เวรก็ไม่มี ใจเราไม่มีกรรม กรรมก็ไม่มี
ฉะนั้น ให้มีพรหมวิหารธรรม อย่างมหาบพิตรเสด็จมานี้ ทุกอย่างเรียบร้อยหมด

       ในคราวเดียวกันนั้น สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ และทูลกระหม่อมสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงทั้งสองพระองค์ 
เสด็จเข้านมัสการหลวงปู่ฝั้น อาจาโร โดยประทับบนพื้นพรม 

สมเด็จฯรับสั่งถาม-ท่านอาจารย์ไปพักวัดบวรฯบ่อยไหม?
หลวงปู่ฝั้นฯ-สมัยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ไปพักบ่อย ทุกวันนี้ไม่ได้ไป ท่านเจ้าคุณศาสนโสภณนิมนต์เหมือนกัน
(ท่าน เจ้าคุณพระศาสนโสภณ ต่อมาได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระญาณสังวร และก็คือ สมเด็จพระญาณสังวร 
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในเวลาต่อมา) 

สมเด็จฯ ปุจฉา-ถ้าท่านอาจารย์ไปพักที่วัดบวรฯ ดิฉันจะไปนมัสการ ดิฉันสนใจภาวนามานานแล้ว แต่เมื่อนั่ง
  จิตไม่ค่อยสงบ ได้ไปเรียนท่านเจ้าคุณศาสนโสภณ ท่านบอกว่า เป็นเรื่องยุ่งยาก
หลวงปู่ฝั้นฯวิสัชนา-ไม่ว่าจะนั่ง-จะนอน-จะยืน-จะเดิน ทำได้ 

สมเด็จฯปุจฉา-ทำอะไร? ให้รู้อยู่หรือ?
หลวงปู่ฝั้นฯวิสัชนา-ขอถวายพระพร


หลัง จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ หลวงปู่ฝั้น เดินทางเข้ามาเมืองหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย ทูลกระหม่อมสมเด็จฟ้าหญิง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่วัดบวรนิเวศวิหาร.....
ในหลวงฯทรงพระราชปฏิสันถารว่า 
"ท่านอาจารย์มากรุงเทพฯรู้สึกเหนื่อยไหม?"
"ขอถวายพระพร อาตมาถือเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องได้เคยฝึกมาสมัยออกปฏิบัติ ครั้งแรกไม่มีรถยนต์ มีแต่เดินด้วยเท้า 
ขอถวายพระพร" 

สมเด็จ พระนางเจ้าฯทรงปรารภว่า-คนทุกวันนี้เข้าใจว่า ตายแล้วไม่ได้เกิด ถ้าคนตายแล้วเกิด ทำไมมนุษย์จึงเกิดมาก? หากเดียรัจฉานเขาพัฒนาตนเอง จะถึงขั้นเกิดเป็นมนุษย์ได้ไหม?                                                หลวงปู่ฝั้นฯ วิสัชนา-ได้ เกี่ยวกับจิตใจ ใจคนมีหลายนัย ตัวเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นสัตว์ ตัวเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเปรต ตัวเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นนรก ตัวเป็นมนุษย์
ใจเป็นมนุษย์ หรือเทวดา เป็นพรหม เป็นพระอรหันต์ เป็นพระพุทธเจ้า ก็มาจากคน

จะรู้ได้อย่างไร?ให้นั่งพิจารณาดู ที่ใจไม่อยู่ คิดโน้นคิดนี่ นั่นแหละ เรียกว่า มันไปต่อภพต่อชาติ ที่ว่าเกิด
ถ้าตาย ก็ไปเกิดตามบุญตามบาปที่ทำไว้ เป็นเปรต-คือ ใจที่มีโมโห โทโส ริษยา พยาบาท ใจนรก-คือ ใจทุกข์ 
กลุ้มอกกลุ้มใจ.....
ใจเป็นมนุษย์-คือ ใจที่มีศีล 5 มีทาน มีภาวนา ใจเป็นเศรษฐี ท้าวพระยามหากษัตริย์ คือ ใจดี.....
ใจเป็นเทวดา-คือ มีเทวธรรม มี หิริ- ความละอายบาป โอตตัปปะ-ความเกรงกลัวบาป น้อยหนึ่งไม่อยากกระทำ...
ใจเป็นพรหม-มีพรหมวิหารธรรม.....
ใจว่างเหมือนอากาศ-ใจพระอรหันต์ คือ ท่านพิจารณาความว่างนั้น จนรู้เท่า แล้วปล่อย เหลือแต่รู้ ใจพระพุทธเจ้า 
รู้แจ้งแทงตลอดหมดทุกอย่าง.....

หลวง ปู่ฝั้น ได้รับความศรัทธาจากองค์พระประมุข และราชสกุลเป็นอย่างสูง เห็นได้จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนิน
        ไปยังวัดอุดมสมพรหลายครั้ง......

เมื่อ หลวงปู่ฝั้นเข้ามาในกรุง ก็ทรงโปรดให้อาราธนาเข้าไปแสดงธรรมในพระราชฐาน บางคราวรับสั่งสนทนากับหลวงปู่อยู่จนดึกมาก เวลาหลวงปู่จะลุกขึ้น เพราะหลวงปู่นั่งอยู่อิริยาบถเดียวนานเกินควร                            จึงลุกขึ้นไม่ได้  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดฯเสด็จเข้าทรงช่วยพยุงหลวงปู่ด้วยพระองค์เอง
www.watkhaophrakru.com


























Visitors: 39,457