กับหลวงพ่อเกษม เขมโก
ปุจฉา-วิสัชนาธรรมระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับหลวงพ่อเกษม เขมโก ณ งานตัดลูกนิมิต
วัดคะตึกเชียงมั่น อ.เมือง จ.ลำปาง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว: การปฏิบัติอย่างพระมีเวลามากย่อมจะได้ผลเร็ว ส่วนผู้ที่มีเวลาน้อยมีภารกิจมาก
จะปฏิบัติอย่างหลวงพ่อก็ไม่อาจทำได้ แล้วจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร เราจะหั่นแลกช่วงเวลาช่วงเช้าให้สั้นเข้าจะได้ไหม
คือซอยเวลาออกจากหนึ่งชั่วโมงเป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงเป็นสิบนาที หรือห้านาที แต่ให้ได้ผล คือ
ได้รับความสุขเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น นั่งรถยนต์จากเชียงใหม่มาลำปางก็สามารถปฏิบัติได้ หรือระหว่างที่มาอยู่ในพิธีนี้
มีช่วงที่ว่างอยู่ ก็ปฏิบัติเป็นระยะไป อย่างนี้จะถูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ อยากจะเรียนถาม
หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร จะปฏิบัติอย่างนั้นก็ได้ ถ้าแบ่งเวลาได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว: ไม่ถึงกับแบ่งเวลาต่างหากออกมาทีเดียว ก็อาศัยเวลาขณะที่ออกมาทำงานอย่างอื่นอยู่นั้นแหละ ได้หรือไม่ คือ ใช้สติอยู่ทุกขณะจิตที่เกิด-ดับ ทำงานด้วยความรอบคอบให้สติตั้งอยู่ตลอดเวลา
หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร มหาบพิตรทรงปฏิบัติอย่างนั้นถูกแล้ว การที่มหาบพิตรเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติ งานอย่างนี้ ก็เรียกว่าได้ทรงเจริญเมตตาในพรหมวิหารอยู่
ในหลวง : ที่หลวงพ่อว่า มีศีลบริสุทธิ์ ชาติก่อนทำบุญไว้มาก อยากทราบว่า ผมเกิดเป็นอะไร ได้ทำอะไรไว้บ้าง จึงได้มาเป็นอย่างนี้?
หลวงพ่อเกษม : (ยิ้มและนิ่ง หันมาทางพระครูปลัดจันทร์ กตปุญโญ ซึ่งเป็นผู้บันทึก แล้วจึงตอบว่า) ตอบยาก!
พระครูปลัดจันทร์ : ขอถวายพระพร … หลวงพ่อไม่อาจจะพยากรณ์ถวายมหาบพิตรได้
เจ้าคุณพระอินทรวิชยาจารย์ : หลวงพ่ออาจจะเกรงพระราชหฤทัยมหาบพิตรก็ได้ … ขอถวายพระพร
ในหลวง : หลวงพ่อไม่ต้องเกรงใจว่าเป็นพระราชา … ขอให้ถือว่าสนทนาธรรมก็แล้วกัน ยินดีรับฟัง
มีคนพูดกันว่า ชาติก่อนผมเกิดเป็นนักรบ มีบริวารมาก ถ้าเป็นอย่างนั้น ศีลห้าจะบริสุทธิ์ได้อย่างไร?
การเป็นนักรบนั้นจะต้องได้ฆ่าคน … สงสัยอยู่?
หลวงพ่อเกษม : (หันมากระซิบกับพระครูปลัดจันทร์ว่า) เอ… ใครทำนายถวายท่านอย่างนั้นก็ไม่รู้! เราไม่รู้ เราไม่มี
“อตีตังสญาณ” (ญาณหยั่งรู้อดีต) “อนาคตังสญาณ” (ญาณหยั่งรู้อนาคต)
ตอบยาก … ต้องหลวงพ่อเมืองสิ!
พระครูปลัดจันทร์ : ขอถวายพระพร … หลวงพ่อยืนยันว่า มหาบพิตรมีศีลบริสุทธิ์และทรงมีบุญมาก!